ข้อมูลท่องเที่ยวฝรั่งเศษ

ข้อมูลทั่วไป ของฝรั่งเศส ( ทัวร์ฝรั่งเศส ) 

ที่ตั้ง: ประเทศฝรั่งเศส หรือ สาธารณรัฐฝรั่งเศส (République Française) เป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่นๆ ที่อยู่ในทวีปต่างๆ ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัว ตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรน์จนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวฝรั่งเศสมักเรียกแผ่นดินใหญ่ว่า หกเหลี่ยม (L'Hexagone) เนื่องจากรูปทรงทางกายภาพของประเทศคล้ายรูปหกเหลี่ยมนั้นเอง ประเทศฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกึ่งประธานาธิบดี โดยยึดอุดมการณ์จากปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และของพลเมือง 
เมืองหลวง: ปารีส 

ภาษา/ประชากร: ประชากรของประเทศฝรั่งเศสนั้นมีประมาณ 64.5 ล้านคน โดยเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 19 ของโลก ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศส และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางราชการ คนฝรั่งเศสส่วนมากจะไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ซึ่งอาจทำให้การติดต่อสื่อสารของนักท่องเที่ยวเป็นไปได้ยาก
ภูมิอากาศ: ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปตั้งอยู่ระหว่าง 41° and 50° เหนือ บนขอบทวีปยุโรปตะวันตกและตั้งอยู่ในภูมิอากาศเขตอบอุ่นเหนือ ทางภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือมีสภาพภูมิอากาศเขตอบอุ่น แต่กระนั้นภูมิประเทศและทะเลก็มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศเหมือนกัน ละติจูด ลองจิจูดและความสูง เหนือระดับน้ำทะเลทำให้ประเทศฝรั่งเศสมีภูมิอากาศแบบคละอีกด้วย ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้มีสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ภาคตะวันตกส่วนมากจะมีปริมาณน้ำฝนสูง ฤดูหนาวไม่มากและฤดูร้อนเย็นสบาย ภายในประเทศภูมิอากาศจะเปลี่ยนไปทางภาคพื้นทวีปยุโรป อากาศร้อน มีมรสุมในฤดูร้อน ฤดูหนาวหนาวกว่าเดิมและมีฝนตกน้อย ส่วนภูมิอากาศเทือกเขาแอลป์และแถบบริเวณเทือกเขาอื่นๆ ส่วนมากมักจะมีภูมิอากาศแถบเทือกเขา ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งกว่า 150 วันต่อปีและปกคลุมด้วยหิมะกว่า 6 เดือน 

        Daylight Savings time ตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เวลาในฝรั่งเศสจะเปลี่ยนจาก GMT+1 เป็น GMT+2 (ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมง ตามลำดับ) โดยเริ่มตั้งแต่คืนวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม เวลา 02.00 น. ใช้เวลา GMT+2 และตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ สุดท้ายของเดือนตุลาคม เวลา 03.00 น. ใช้เวลา GMT+1 

ขั้นตอนการขอวีซ่า: นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 การยื่นขอวีซ่าประเทศฝรั่งเศส จะต้องทำการยื่นผ่านบริษัทตัวแทน ซึ่งการยื่นผ่านตัวแทน จะช่วยให้คุณได้รับความสะดวก รวดเร็ว และสามารถติดตามผลการยื่นขอวีซ่าได้อย่างง่ายดาย 
คุณสามารถดูประเภทวีซ่าที่คุณต้องการ รวมทั้งดูเอกสารที่จำเป็นได้ตามที่อยู่ด้านล่างนี้ ข้อมูลการทำวีซ่าฝรั่งเศส 
 

เงินตราและตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสในปัจจุบัน ใช้ธนบัตรและเหรียญเงินสกุลยูโร (€) ธนบัตร 500€ / 200€ / 100€ / 50€ / 20€/ 10€/ 5€ เหรียญ 2€ / 1€ / 50 cents / 20c / 10c / 5c / 2c / 1c เหรียญ 1€ =100 Cents 
>ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินยูโร EURO (EUR)

 

การเดินทาง ใน ฝรั่งเศส


ทางรถยนต์
       ถนนหนทางใน ฝรั่งเศสมีสภาพดีเยี่ยมและโยงใยเป็นเครือข่าย คิดเป็นระยะทางรวมกันได้เกือบ 1 ล้านกิโลเมตร ช่วงเวลาที่การ จราจรมีปัญหามากที่สุด คือ 7.30 น. ถึง 9.00 น. และ 17.30 น. ถึง 19.30 น. ในวันทำการปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนรอบเมืองใหญ่ๆ และในใจกลางเมืองทุกแห่ง นอกจากนี้วันแรกๆ ของการปิดภาคเรียนหรือช่วงพักร้อนประจำปี การจราจรจะติดขัดมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามจุดสำคัญๆ เช่น บนถนนสายที่จะออกนอกเมือง หรือตามด่านเก็บค่าผ่านทาง
       การจอดรถในที่ต่างๆ ที่ฝรั่งเศษนั้นจะมีกฎระเบียบที่เคร่งครัดและต้องเสียค่าจอดรถเป็นส่วนใหญ่ สถานที่ที่อนุญาติให้จอดได้จะต้องมีสัญลักษณ์แสดงอยู่ที่พื้นถนน เป็นเส้นประสีขาว และจะต้องหยอดเงินและรับตั๋วที่ตู้เก็บค่าจอดรถอัตดนมัติทุกครั้ง ทุกเมืองจะมีที่จอดรถที่สามารถจอดรถและใช้ระบบขนส่งมวลชนต่อได้ 

ทางเครื่องบิน
       เป็นวิธีการเดินทางระหว่างเมืองที่รวดเร็วที่สุด (เมืองที่ มีเครื่องบินให้บริการนั้น จะต้องมีระยะทางที่ห่างกันเพียงพอต่อจุดคุ้มทุนสำหรับสายการบิน)
แอร์ฟรานซ์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ มีเที่ยวบินเชื่อมระหว่างปารีสกับเมืองสำคัญต่างๆ ในฝรั่งเศส โดยใช้เวลาบินแต่ละเส้นทางเฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบินระหว่างเมืองต่างๆ       ในส่วนภูมิภาคโดยไม่ต้องผ่านปารีสอีกด้วย 

ทางรถไฟ
       รถไฟเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายรวดเร็วและเป็นที่นิยม อย่างมากในฝรั่งเศส เครือข่ายเส้นทางรถไฟของฝรั่งเศสครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางแทบทุกจุด (โดยเฉพาะ อย่างยิ่งหากเดินทางไปจากปารีส) การติดต่อระหว่างเมืองต่างๆ รวดเร็วและปลอดภัยด้วยบริการของรถไฟความเร็วสูง หรือรถด่วนพิเศษระหว่างเมือง 

* รถไฟความเร็วสูง
       รถไฟ TGV เป็นผล งานความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่ฝรั่งเศสภาคภูมิใจด้วยสมรรถนะความเร็วที่สูง ถึง 300 กม./ชม. ดังนั้นการเดินทางโดย TGV นอกจากจะปลอดภัย ตรงเวลาและสะดวกสบายแล้ว ยังสามารถประหยัดเวลาเดินทางจากปารีสไปยังเมืองสำคัญต่างๆ ของฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี เช่น จากปารีสไปเมืองลิลภายในเวลา 1 ชั่วโมง ไปมาร์เซยย์หรือบอร์โดภายใน 3 ชั่วโมง ไปแรนน์ภายใน 2 ชั่วโมง... แต่ที่สำคัญคือคุณต้องจองที่นั่งล่วงหน้าเสมอ ถึงแม้ว่าจะมาถึงสถานีรถไฟก่อนออกเดินทางเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม 
* ข้อควรทราบ 
       ก่อนขึ้นรถไฟ ฝรั่งเศส คุณจะต้องนำตั๋วรถไฟไปตอกลงตราที่เครื่องอัตโนมัติ (เป็นตู้สี ส้มที่ตั้งอยู่ก่อนเข้าไปยังชานชาลารถไฟ) หากคุณรีบจนตอกตั๋วไม่ทันก่อนขึ้นขบวนรถ คุณจะต้องแจ้งให้นายตรวจที่ประจำอยู่บนขบวนรถไฟทราบโดยทันที มิฉะนั้นคุณจะต้องถูกปรับในภายหลัง 
* ขนส่งมวลชน 
       นอกเหนือจากรถ เมล์ประจำทางที่วิ่งขนส่งผู้โดยสารอยู่แทบทุกเมืองแล้ว บางแห่งยังมีรถไฟใต้ดินหรือรถรางให้บริการเสริม โดยจะรับส่งผู้โดยสารจากแถบชานเมืองเข้าสู่ใจกลายเมืองแต่ละแห่ง     จึงเป็นวิธีที่รวดเร็วและประหยัดที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชม เมืองต่างๆ ให้ทั่วโดยไม่ต้องเหนื่อยแรง 

 

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ ฝรั่งเศส

Château de Versailles 
        พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นพระราชวังที่สวยงาม สร้างขึ้นโดย พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส มีนายช่างสถาปนิก อัลเดรด เลอ นอสเตอร์ เป็นผู้ออกแบบ เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2204 (ค.ศ. 1661) ใช้เวลาในการสร้างอยู่นานถึง 30 ปี จึงแล้วเสร็จ สิ้นเงินค่าสร้าง 500,000,000 ฟรังก์ ใช้คนงาน 30,000 คน ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างและศิลปกรรมก่อสร้างที่งดงามมาก 

         ภายในพระราชวังแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ห้องทรงพระอักษร ห้องโถง ห้องออกว่าราชการ ฯลฯ แต่ละห้องมีเครื่องประดับมีค่ามากมาย ทั้งวัตถุ และ ภาพเขียนศิลปะที่มีชื่อเสียง ห้องที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ ห้องกระจกที่เคยใช้ลงนาม เซ็นสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตร กับเยอรมัน ในคราวมสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นที่ใช้ลงนามในครั้งเมื่อเยอรมันบุกตีชนะฝรั่งเศส ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ในการทำสงครามใหญ่ทุกครั้งฝรั่งเศส จะต้องประกาศให้ปารีสเป็นเมืองปลอดทหารคือ ไม่มีทหารตั้งอยู่ ไม่มีการต่อสู้ใด ๆทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาไม่ให้พระราชวังแห่งนี้ ต้องได้รับความเสียหายจากการโจมตี ของข้าศึก ปัจจุบันเป็นสถาปัตยกรรมมีค่าที่สุดของฝรั่งเศส และโลก ที่มีนักท่องเที่ยวไปชมความงามไม่น้อยกว่า 1,000,000 คน ต่อปี 

Arc de triomphe de l'Étoile 
         Arc de triomphe de l'Étoile 
        ประตูชัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์" (L'Axe historique) ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังชานเมืองปารีส ประตูชัยแห่งนี้ออกแบบโดยฌอง ชาลแกร็งในปี พ.ศ. 2349 โดยมียุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน เต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นการปลุกใจ และเป็นอนุสรณ์สถานจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่
        ประตูชัยฝรั่งเศสมีความสูง 49.5 เมตร (165 ฟุต) กว้าง 45 เมตร (148 ฟุต) และลึก 22 เมตร (72 ฟุต) เป็นประตูชัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน แบบของประตูชัยฝรั่งเศสนี้ได้แนวความคิดมาจากประตูชัยไททัส (สร้างในสมัย จักรวรรดิโรมัน ตั้งอยู่ที่เมืองโรม ประเทศ อิตาลี) 

Avenue des Champs-Élysées 
         แอวะนู เดส์ ชองป์ส เอลิเซ่ เป็นถนนในเขตที่ 8 ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร คาเฟ่ และร้านค้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเชสต์นัตที่ได้รับการตกแต่ง อย่างสวยงามปลูกเรียงราย ชื่อ "ชองป์ส เอลิเซ่ส์" มาจากคำว่า "ทุ่งเอลิเซียม" จากเทพปกรณัมกรีก ในภาษาฝรั่งเศส ชองป์ส เอลิเซ่ส์ ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย 
        ชองป์ส เอลิเซ่ส์ แต่เดิมเป็นท้องทุ่งและสวนเหมือนในชนบท จนกระทั่งปี ค.ศ. 1616 เมื่อพระนาง มารี เดอ เมดิชิ สมเด็จพระราชินีนาถแห่งฝรั่งเศส ได้ทรงขยายพื้นที่บริเวณสวนหย่อมของพระราชวังตุยเลอ รีส์ (Palais des Tuileries) เป็นถนนที่มีต้นไม้สองข้างทาง ในปี ค.ศ. 1724 ได้รับการขยายไปเชื่อมกับจัตุรัสแห่งดวงดาว (Place de l'Étoile, ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น จัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ที่เป็นที่ตั้งของประตูชัยฝรั่งเศส) 

Cathédrale Notre Dame de Paris 
         มหาวิหารโนตเรอดาม (Cathédrale Notre Dame de Paris, กาเตดราลโนตเรอดามเดอปารี) เป็นมหาวิหารในสมัยกอธิค ( Gothic ) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame ในชื่อของมหาวิหารนั้นแปลว่า "Our Lady" หรือ ก็คือ พระแม่มารีนั้นเอง ปัจจุบันมหาวิหารก็ยังใช้เป็นวัดของนิกายโรมันคาทอลิกและ เป็นที่นั่งของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส มหาวิหารนอเทรอดามถือกันว่าเป็นวัดที่สวยงามที่สุดในสิ่งก่อสร้าง ยุคกอธิคแบบฝรั่งเศส วัดนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแชน วียอเลต์-เลอ-ดุค ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส 
        การก่อสร้างเป็นแบบกอธิคเป็นมหาวิหารแรกที่สร้างในลักษณะนี้ และการก่อสร้างก็ทำต่อเนื่องมาตลอดสมัยกอธิค ปฏิมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี (stained glass) มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ (Naturalism) ทำให้แตกต่างจาก ศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น 
        นอเทรอดามเป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งก่อสร้างแรกที่ใช้ "กำแพงค้ำยันแบบปีกนก" ตามแบบเดิมไม่ได้บ่งถึงกำแพงค้ำยันรอบมหาวิหาร "บริเวณร้องเพลงสวด" หรือ รอบทางเดินกลางของตัววัด เมื่อเริ่มสร้างกำแพงวัดสูงขึ้นกำแพงก็เริ่มร้าวเพราะน้ำหนักของสิ่งก่อ สร้าง เพราะสถาปนิกสมัยกอธิคจะเน้นการสร้างสิ่งก่อสร้างที่สูง บาง และโปร่ง เมื่อสร้างสูงขึ้นไปกำแพงก็ไม่สามารถรับน้ำหนักและความกดดันของกำแพงและ หลังคาได้ทำให้กำแพงโก่งออกไปและร้าว สถาปนิกจึงใช้วิธีแก้ด้วยการเติม "กำแพงค้ำยัน" ที่กางออกไปคล้ายปีกนกด้านนอกตัววัด เพื่อให้กำแพงค้ำยันนี้หนุนหรือค้ำกำแพงตัววัดเอาไว้ เมื่อทำไปแล้วนอกจากจะมีประโยชน์ทางการใช้สอยแล้วยังกลายเป็นเครื่องตกแต่ง ที่ทำให้สิ่งก่อสร้างมีความสวยงามขึ้น ฉะนั้นวิธีแก้ปัญหานี้จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของวัดที่สร้างแบบกอธิค ไปด้วยในตัว
        ราวปี ค.ศ. 1790 ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศสวัดก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประติมากรรมและศิลปะทางศาสนาถูกทำลายไปมาก มหาวิหารได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนมีสภาพเหมือนก่อนหน้าที่ถูกทำลาย 

Bateaux Mouches 
        บาโต มูช คือการล่องเรือเพื่อเที่ยวชมเมืองปารีส ของฝรั่งเศส ซึ่งจะล่องน้ำไปตามแม่น้ำแซนเพื่อชมเมืองปารีสโดยรอบ 
        คำว่า บาโต มูช ( Bateaux Mouches ) นั้นเป็นคำที่มาจากชื่อเครื่องหมายทางการค่า ของ คอมปานี เดส บาโต มูช ( Compagnie des Bateaux Mouches ) ซึ่งเป็นผู้ที่ในการบริการล่องเรือในกรุงปารีส คำว่า บาโต มูช ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า เรือแมลงวัน ซึ่งเป็นการใช้คำที่เข้าใจผิด อันที่จริงแล้ว เป็นการนำคำมาจากสถานที่ที่สร้างเรือ คือ บริเวร ย่านมูช ( Mouche ) ใน เมืองริยง ( Lyon ) 
        เรือที่นำเที่ยวนี้เป็นที่นิยมมากใน ปารีส เรือมีที่นั้งเยอะและจะมีบริเวณที่เปิดและปิดหลังคาให้เลือกนั่งได้ ใช้เวลาในการชมเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งหลายๆ บริษัทมีการให้บริการอาหารกลางวัน รวมไปถึงอาหารเย็นบนเรืออีกด้วย 
        เนื่องจากแม่น้ำแซนตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่อย่าง ปารีส ทำให้การล่องเรือไปตามแม่น้ำนั้นได้พบกับสถานที่ที่สวยงามมากมายที่อยู่ในปารีส เช่น หอไอเฟล, มหาวิหารนอร์ทเทอดาม, สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 และ พิพิธภัณฑ์ลูฟ เป็นต้น ดังนั้น การมาล่องเรือ บาโต มูช เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งสำหรับคนที่มาเที่ยวฝรั่งเศส จะต้องแวะเวียนมา 

Obélisque de Louxor 
        โอเบริกส์แห่งลักซอร์ ( The Luxor Obelish ) เป็นโอเบลิกส์ศิลปะอียิปต์โบราณตั้งอยู่ตรงกลางของจตุรัส คองคอร์ด ( Place de la Concorde) ซึ่งแต่เดิมแล้ว มันตั้งอยู่ที่ทางเข้าของวัดลักซอร์ ( Luxor Temple ) ในประเทศ อียิปต์ สร้างจากหินแกรนิตสีแดงทั้งก้อน มีความสูงถึง 23 เมตร หนัก 250 ตัน ตัวโอเบริกส์ตกแต่งด้วยรูป ฮีโรกลีฟิก เพื่อเป็นการสรรเสริญประเกียจติ์ ฟาโร รามเสสที่ 2 ในสมัย อียิปต์โบราณ 

Musée du Louvre 
        พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะ ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์คาเปเทียง ตัวอาคารเดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่า ระดับโลกเป็นจำนวนมาก เช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่ง Antioch พิพิธภัณฑ์ลูฟ นั้นต้อนรับนักเที่ยวที่มาเที่ยวฝรั่งเศส โดยเฉพาะปารีส กว่า 8,000,000 คนต่อปี โดยพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน 

La Tour Eiffel 
        หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, ตูร์แอฟแฟล; อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนถนนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมาชมกว่า 6,000,000 คน และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น 
        เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์ วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น 

Château de Chenonceau 
        ปราสาทเชอนองโซ เป็นปราสาทที่สง่างามที่สุดในเขตหุบเขาลุ่มแม่น้ำลัวร์ ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำแชร์ ที่สร้างสมัยศตวรรษที่ 16 เน้นในเรื่องสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มี ฐานโค้งที่สวยงามรองรับตัวปราสาท ตัวเสาฝังอยู่ที่ก้นแม่น้ำ ปราสาทจึงดูคล้ายลอยอยู่เหนือน้ำ ปราสาทมีสวนสวยและป่าละเมาะที่แวดล้อมอยู่โดยรอบ ช่วยส่งให้ปราสาทแห่งนี้โดดเด่นยิ่งขึ้น ภายในมีเครื่องเรือนเก่าแก่และภาพวาดมากมาย 

Le Mont Saint Michel 
         มงแซงต์-มิเชล คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยว กลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณบาส-นอร์มองดีของประเทศ ฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็น มรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มงแซง-มีแชลและอ่าว และยังเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ( Saint Peter Cathedal )แห่งกรุงโรม สร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดการสร้าง จน ค.ศ. 966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็ง-ว็องดรีย์ ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอารามขนาดใหญ่ และมีการตั้งชื่อใหม่ว่ามงแซ็งต์-มิเชล 
        ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมงแซง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยงยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย 
        ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของเทวดามิเชล (ไมเคิล) สร้างโดย เอมานูแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet)

Nice 
        นีซ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของฝรั่งเศส นีซเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมชั้นเยี่ยม ซากปรักหักพัง พิพิธภัณฑ์ ร้านเสื้อผ้า ตลาดกลางแจ้ง ภัตตาคาร และชีวิตในยามค่ำคืน ทำให้นีซเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมที่น่าไปเยี่ยมชม นีซเป็นเมืองที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย ประวัติศาสตร์อันยาวนานของภูมิภาคนี้ส่งผลให้เมืองนี้มีวัฒนธรรมที่โดดเด่น นอกเหนือจากวัฒนธรรมฝรั่งเศสยังสัมผัสได้ถึงอิทธิพลที่ได้รับจากชาวอิตาเลี่ยนและจากดินแดนอาณานิคมอย่างเกาะคอร์ซิกา ที่นีซมีงานเทศงานคาร์นิวัลใน เดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลเพลงแจ๊สในเดือนกรกฎาคม และงานแสดงศิลปะตลอดทั้งปี รวมถึงงานอื่นๆที่สร้างสีสันให้เมืองนี้อยู่เสมอ 

Deauville 
        โดวิลส์ เมืองตากอากาศริมทะเลอีกเมืองหนึ่ง ที่ดาราและนางแบบนิยมมาถ่ายรูปลงปกนิตยสารกันอยู่เป็นประจำ มีการสร้างสะพานไม้ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ สามารถเดินเที่ยวชมเมืองเล็กๆ ที่หรูหรา และแวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของเหล่าชนชั้นสูงในอดีต ตัวเมืองเรียงรายไปด้วยด้วยอาคารร้านค้าสวยงาม ขายสินค้ายี่ห้อดังๆ อาทิ กุชชี่, คาร์เทียร์, คริสเตียนดิออร์, หลุยส์ วิตตอง, ปราดาและห้างแพรงตองส์ ในบรรยากาศสบายๆ 

Grasse 
        เมือง กราซ ในแคว้น Provence ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการผลิตน้ำหอมของฝรั่งเศส กลิ่นหอมจากดอกไม้และพืชนานาชนิดถูกนักผสมน้ำหอมหรือ Le Nez ทำการผลิตจากการผสมกลิ่นหอมต่างๆ และมีการตั้งชื่อด้วยคำจากภาษาวรรณกรรมหรือบุคคลเป็นส่วนใหญ่ จนเริ่มมีร้านขายน้ำหอมเปิดจำหน่ายเป็นร้านเฉพาะจากเดิมที่จำหน่ายร่วมกับ เวชภัณฑ์ โดยมีการตกแต่งร้านขายน้ำหอมอย่างงดงามด้วยกระจกเงาและสีสันที่อ่อนโยน จนทุกคนเป็นต้องเหลียวมองเมื่อเดินผ่าน 

เทศกาลประจำปีที่น่าเที่ยวของฝรั่งเศส 

Le Carnival de Nice 
        งานคาร์นิวัลที่เมืองนีซ นั้นเป็นหนึ่งในงานคาร์นิวัลหลักๆ ของโลก นอกจาก งานคาร์นิวัลที่บลาซิล และ งานคาร์นิวัลที่เวนิช อิตาลี เลยทีเดียว ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นทุกๆ ปีประมาณเดือน กุมพาพันธ์ ใน เมือง นีซ ประเทศ ฝรั่งเศส 
        จากบันทึกแสดงให้เห็นว่า งานคาร์นิวัลนี้มีมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1294 โดย ท่านเคาท์แห่งปรอแวนส์ (Count of Provence ) ได้จัดงานเฉลิมฉลองขึ้น จึงมีการสันนิฐานว่าเป็นจุดกำเนิดของงานคาร์นิวัลที่เมืองนิซแห่งนี้ โดยแต่ละปี งานคาร์นิวัลที่เมืองนีซมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมมากว่า 1,000,000 คนต่อดี ซึ่งมีการจัดงานยาวถึง 2 สัปดาห์เลยทีเดียว 

Le Festival de Cannes 
        เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946 ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเทศกาลหนึ่ง และมีอิทธิพลมากที่สุดรวมถึงชื่อเสียง เทียบเคียงกับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสและเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน และเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่ไม่เฉพาะภาพยนตร์ที่เป็นกระแสเหมือนกับ Holly woods แต่เป็นงานที่เปิดโอกาสให้กับภาพยนต์สั้นของผู้จัดทำภาพยนตร์อิสระ งานจัดขึ้นประจำปี ราวเดือนพฤษภาคม ที่ Palais des Festivals et des Congr?s ในเมืองคานส์ ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส 

Ferias de Nimes 
        งานเทศกาลที่เมืองนิมส์ เป็นการจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความกล้าหาญในการต่อสู้ของวัวกระทิงและนักสู้วัวกระทิง หรือ โตแรโร ( Torero ) โดยนักสู้วัวกระทิงนี้มีสถานะที่เป็นเหมือนกับวีรบุรุษของชาติ เหมือนกับ นักฟุตบอลของประเทศเลยทีเดียว งานเทศกาลนี้ไม่จำเป็นต้องชมการต่อสู้วัวกระทิงเท่านั้น ยังมีกิจกรรมมากมายที่ทำให้งานเทศกาลที่เมืองนิมส์มีความรื่นเร่งเช่น การแสดงดนตรีตามถนนสายต่างๆ ภายในเมืองเป็นต้น

 

อาหารฝรั่งเศส ที่ได้พอเมื่อไปเที่ยวฝรั่งเศสต้องรับประทาน

1. Quiche 
        คีช เป็นอาหารจานอบชนิดหนึ่งโดยมีส่วนประกอบหลักคือ ไข่ นม หรือ ครีม ถึงแม้ว่าคีชจะมีลักษณะคล้ายพายแต่คีชถูกจัดเป็นอาหารคาว โดยในคีชอาจมีส่วนประกอบอื่นเช่น เนื้อสัตว์ ผัก เนยแข็ง ได้ ถึงแม้ว่าคีชจะมีส่วนประกอบหลายอย่างคล้ายอาหารประเภทพาสตา แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพาสตา

2. Ratatouille 
        ราทาทุย หรือ แรททาทูอี เป็นอาหารพื้นเมืองของฝรั่งเศส ในเขต Proven?al โดยมีลักษณะเป็นสตูว์ผัก มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Nice ทานตอนใต้ของฝรั่งเศส อาหารชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า ratatouille ni?oise คำว่า ratatouille มาจากภาษาอ็อกซิตันว่า "ratatolha" ราทาทุยปัจจุบันพบเห็นได้ที่ Occitan Proven?a และ Ni?a โดยมักจะทำในหน้าร้อนโดยใช้ผักในฤดูร้อน Ratatolha de Ni?a สูตรดั้งเดิมนั้นจะใช้เพียงแค่ ซุชีนี่, มะเขือเทศ, พริกหยวกแดงและเขียว, หัวหอม, และกระเทียม ราทาทุยในปัจจุบันจะมีการใส่มะเขือลงไปในส่วนผสมด้วย ปกติราทาทุยจะเสิร์ฟเป็นอาหารข้างเคียงกับอาหารหลัก หรือบางครั้งก็เสิร์ฟเป็นอาหารหลักบนโต๊ะอาหาร

3. soufflé 
        ซูเฟล เป็นเค้กชนิดหนึ่ง เนื้อเบา ฟูนุ่ม ใช้เสิร์ฟเป็นของหวานหรืออาหารว่าง ซูเฟลมีหลายแบบเช่น ซูเฟลซอสปู ซูเฟลช็อกโกแลต

4. French Wine 
        ไวน์ของประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นที่นิยมมาก ซึ่งได้มีการจัดให้เป็นไวน์ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว ในฝรั่งเศสมีแหล่งผลิตไวน์อยู่ทั่วประเทศ ซึ่งมีการผลิตไวน์มากเป็นอันดับที่สองของโลกรองจาก ประเทศ สเปน เท่านั้น 
        ไวน์ที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ดื่มเอง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน แต่โดยการแนะนำของผู้คนจำนวนมากแล้ว ไวน์จาก 
        ประเทศฝรั่งเศสเป็นถิ่นกำเนิดไวน์ชั้น เยี่ยม อาทิ แชมเปญ บอร์โดซ์ เบอร์กันดี และไม่มีประทศใดในโลกที่สามารถผลิตไวน์ได้หลากหลายชนิดเท่าฝรั่งเศส ไวน์เป็นสัญญลักษณ์เฉพาะของงานเลี้ยง วิธีการและขั้นตอนในการดื่มไวน์จะเป็นตัวช่วยเพิ่มคุณค่าและรสชาติที่ดีของไวน์ได้ การชิม ไวน์ ของ ฝรั่งเศสนั้น เนื่องจากเขตพื้นที่ที่มีการปลูกองุ่นในประเทศฝรั่งเศสครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจรดตะวันตก ระยะห่างนี้ก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างเขตพื้นที่ ซึ่งมีผลต่อลักษณะของดินที่ใช้ปลูกองุ่น ทิศทางที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์และภูมิอากาศ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดไวน์ที่ได้จากเขตเพาะปลูกองุ่น จึงมีลักษณะเฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป ประเทศฝรั่งเศสให้ผลผลิตไวน์ นานาชนิดแก่นักชิมไวน์ทั้งหลาย คือมีไวน์ appellations กว่า 400 ชนิด และแว็งเดอเปยี อีกมากมายหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งมีสีสัน รสชาด และลักษณะเฉพาะตัวให้เลือกตามรสนิยม และความพอใจอย่างเหลือเฟือ

ข้อมูลทั่ว ไปที่ควรทราบก่อนไปฝรั่งเศส


เอกสารสำคัญประจำตัว 

        ภายหลังประกาศใช้ ข้อตกลงเช็งเก้น พลเมืองสหภาพยุโรปสามารถเดินทางผ่านพรมแดนของฝรั่งเศสได้โดยเสรี แต่จะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางในกรณีที่มีการเรียก ตรวจ ส่วนผู้ถือสัญชาติไทยจะต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้าฝรั่งเศส (รายละเอียด ขั้นตอนการขอวีซ่า) ส่วนผู้เยาว์ที่เดินทางตามลำพัง จะต้องมีหนังสือยินยอมให้เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งลงนามรับรองโดยบิดาและมารดาติดตัวมาด้วย 

ค่าธรรมเนียมการบริการ ( Tip and Service Charge ) 

         ตามกฏหมายฝรั่งเศส ร้านอาหารหรือภัตตาคาร สามารถคิดค่าเซอร์วิสชาร์จได้ ประมาณ 10-15% ของราคาอาหาร ดังนั้นการทิปอาจจะไม่จำเป็นเท่าไรนัก แต่คนส่วนมากมักจะทิ้งเศษเหรียญ ไม่ว่าจะกินกันในจำนวนเงินแค่ไหนก็ตาม หรือถ้าเราพอใจการบริการของเขา ก็อาจจะทิปให้มาก ควรให้ทิปตอนใช้บริการ รถแท็กซี่, ร้านกาแฟ หรือ โรงภาพยนตร์ด้วย

 

โทรศัพท์ 

         โทรศัพท์สาธารณะในฝรั่งเศสมีทั้งแบบใช้บัตรและแบบหยอดเหรียญ ถ้าเป็นในเมืองใหญ่ๆ มักจะเป็นแบบใช้บัตร บัตรโทรศัพท์มี 2 มูลค่า คือ 40 ฟรังค์ มี 50หน่วย และ 96 ฟรังค์ มี 120 หน่วย หากจะโทรศัพท์กลับมาเมืองไทยขอแนะนำให้ใช้บัตรโทรศัพท์จะสะดวกกว่าแบบหยอด เหรียญ หาซื้อบัตรโทรศัพท์ได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ แผงขายหนังสือที่มีอยู่ทั่วไป หรือตามสถานีรถไฟ และร้านขายของที่มีเขียนป้ายติดว่าจำหน่ายบัตรโทรศัพท์ หรือ "Telecarte" หากจะโทรศัพท์มาประเทศไทยด้วยโทรศัพท์สาธารณะจะต้องหมุน 19+66+รหัสเมือง+หมายเลขที่ต้องการ หากอยู่ที่เมืองอื่นๆในฝรั่งเศส นอกเหนือจากเมืองปารีสและต้องการจะโทรศัพท์มายังปารีส หมุนหมายเลข16+1+หมายเลขที่ต้องการ 
        ถ้าอยู่ในปารีสและต้องการโทรศัพท์ไปยังเมืองอื่นๆ ให้หมุนหมายเลข 16+หมายเลขที่ต้องการ หมายเลขโทรศัพท์ที่ควรรู้ 13-โอเปอร์เรเตอร์ 1614-โอเปอร์เรเตอร์สำหรับระหว่างประเทศแนะนำแพคเกจโทรราคาถูก

 

บงฌูร์(Bonjour) 

        คำ ทักทายที่เปี่ยมล้นไปด้วยไมตรีจิตคำนี้ออกมาจากใจของชาวฝรั่งเศสทุกคนที่ พร้อมจะนำท่านท่องเที่ยว เพื่อเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ ที่น่าภาคภูมิใจของฝรั่งเศส เมื่อท่านเห็นสัญลักษณ์ที่มีคำว่า บงฌูร์ พร้อมรอยยิ้มสดใสในกรอบสีแดงตามโครงการรณรงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้ ที่ใด ขอได้โปรดมั่นใจว่า ท่านจะได้รับการต้อนรับที่ประทับใจและบริการอันอบอุ่นเป็นกันเอง ไม่ว่าจะในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้า... แล้วคุณจะรู้ว่าในฝรั่งเศสรอยยิ้มที่เห็นบนใบหน้าบ่งบอกถึงความจริงใจให้กับ ผู้มาเยือนเสมอ 
        สำหรับผู้พิการ คุณ จะได้รับความสะดวกจากสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการพิเศษที่ได้จัดเตรียมไว้ใน สถานที่ต่างๆ เช่น สถานีรถไฟทุกแห่งจะมีรถเข็นและจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือในขณะที่ขึ้นหรือลง และยังจัดที่นั่งไว้ให้เป็นพิเศษอีกด้วย บริการแบบเดียวกันนี้ยังจัดให้มีในสนามบิน ร้านสรรพสินค้า สถานที่สำคัญ (พิพิธภัณฑ์หรืออนุสรณ์สถาน) และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สถานที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่อง เที่ยวหลายแห่ง ได้รับมอบป้ายเกียรติยศ Tourisme & Handicap เพื่อแสดงว่าสถานที่เหล่านี้เต็มใจให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวผู้พิการเป็นพิเศษ

วันหยุดราชการ 

        ประเทศฝรั่งเศสมี วันหยุดราชการ 11 วัน ได้แก่ วันที่ 1 มกราคม วันที่ 1 และ 8 พฤษภาคม วันจันทร์หลังวันอีสเตอร์ วันฉลองการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระเยซู (ซึ่งจะตรงกับวันพฤหัสหรือสี่สิบวันหลังจากวันอีสเตอร์) วันสมโภชพระจิต (ซึ่งจะตรงกับวันจันทร์หรือห้าสิบ วันหลังจากวันอีสเตอร์) วันที่ 14 กรกฎาคม วันที่ 15 สิงหาคม วันที่ 1 และ 11 พฤศจิกายน และวันที่ 25 ธันวาคม ในวันเหล่านี้สถานที่ราชการ ธนาคาร ร้านค้าและกิจการส่วนใหญ่จะปิดทำการ

 



Other Article

ข้อมูลท่องเที่ยวรัสเซีย

ข้อมูลท่องเที่ยวจีน

ข้อมูลท่องเที่ยวตุรกี

ข้อมูลท่องเที่ยวออสเตรเลีย

SOMPHONEXAY TOUR CO., LTD

Somphonexay Tour

Office Address
15-122 Ban Lakmuang, Pakse,
Champasak, Lao PDR.


Socal Network

LINE :

Whatsapp :

Вɠ2024 Somphonexay Tour All Rights Reserved.


About

Contact

Call