ข้อมูลท่องเที่ยวมัลดีฟส์

 มัลดิฟส์           

      สาธารณรัฐมัลดีฟส์  (Republic of  Maldives)  ชาติอิสลามเล็ก  ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย  เป็นประเทศเอกราชที่มีประวัติศาสตร์  วัฒนธรรม  และภาษา เป็นของตนเองมานานนับศตวรรษ  เอกลักษณ์โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของมัลดีฟส์คือลักษณะทางภูมิศาสตร์  พื้นที่ประเทศ 99% เป็นพื้นน้ำ  ส่วนที่เหลือคือเกาะปะการังขนาดเล็กที่สูงไล่เลี่ยระดับน้ำทะเลประมาณ 1,190 เกาะ  เรียงตัวกันเป็นวง ๆ ลักษณะคล้ายวงแหวน ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ล้อมน้ำทะเลไว้ภายใน

เนื่องจากที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร  ธรรมชาติเป็นแบบเขตร้อนชื้น รัฐบาลและประชาชนใส่ใจในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างมาก  มัลดีฟส์จึงมีทิวทัศน์งดงาม  ทั้งทัศนียภาพบนบก  ฟ้าใสกระจ่าง พุ่มไม้เขียวชอุ่ม  ดอกไม้สีจัดจ้าน และในทะเลที่อุดมไปด้วยฝูงปลานานาชนิด  เต่าหลากพันธุ์  ปะการังและดอกไม้ทะเลสีสันสดใส

      ชาวมัลดีฟส์ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ประกอบอาชีพประมงและค้าขายตามอย่างบรรพบุรุษ และเคร่งศาสนา  บรรยากาศทั่วไปสงบร่มรื่น ยกเว้นในมาเล่ เมืองหลวงของประเทศที่ดูจะคึกคักตามแบบเมืองใหญ่ทั่วไป   ส่วนตามนอกเกาะออกไป บางเกาะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวพื้นเมือง บางเกาะเป็นที่ตั้งรีสอร์ตส่วนตัวสำหรับนักท่องเที่ยว

ประชากร

      มัลดีฟส์มีประชากรราว 394,451 คน  1 ใน 4 ของจำนวนประชากรอาศัยอยู่ในมาเล่  ชาวมัลดีฟส์เรียกเผ่าพันธุ์ของตนว่า ดิเวฮิน  (Dhivehin)  สืบเชื้อสายจากการแต่งงานข้ามเชื้อชาติ  ระหว่างอารยันจากตะวันออกกลาง  นีกรอยด์จากแอฟริกา ดราวิเดียนและสิงหลจากอินเดียตอนใต้และศรีลังกา

 

ภาษาที่ใช้

ในสมัยโบราณ ชาวมัลดีฟส์พูดภาษาดีลู (Elu) ซึ่งมาจากภาษาสิงหลโบราณ  ต่อมาพัฒนาเป็นดิเวฮิ (Dhivehi) ซึ่งเป็นภาษาทางราชการในปัจจุบันเป็นภาษาที่ยังคงเค้าโครงภาษาสิงหลของศรีลังกาผสมผสานคำจากภาษาอารบิก  ฮินดี และอังกฤษ  เช่นเดียวกับภาษาในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ ตัวอักษรเรียกว่า  ทานะ (Thaana) ซึ่งวีระบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศ  ธากูรูฟานูเป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยปรับเปลี่ยนจากภาษาเขียนแบบเดิมที่เรียกว่า ดิเวสอกูรู (Dhives  Akuru) ทานะมีพยัญชนะทั้งหมด 24 ตัว ลักษณะคล้ายอักษรชวเลข มีสระกำกับเสียงทั้งด้านบนและล่าง เขียนจากขวาไปซ้ายและอ่านจากปกหลังไปปกหน้าตามแบบภาษาอารบิกตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ทางการพยายามส่งเสริมการศึกษาอย่างกว้างขวาง  เกิดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมากขึ้น  ชาวมัลดีฟส์ในเมืองมาเล่  เมืองท่องเที่ยว  รีสอร์ตต่าง ๆ และที่เกาะทางตอนใต้ซึ่งเคยเป็นฐานทัพอากาศของอังกฤษสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี

 

ภูมิประเทศ

      สาธารณรัฐมัลดีฟส์เป็นประเทศหมู่เกาะตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย  บริเวณเส้นศูนย์สูตรห่างจากปลายแหลมตอนใต้ของประเทศอินเดียไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 600 กิโลเมตร  มีลักษณะที่โดดเด่นกว่าประเทศหมู่เกาะอื่นคือมีเกาะขนาดต่าง ๆ เรียงตัวกันเป็นรูปวงแหวนค่อนข้างรีล้อมรอบพื้นน้ำ  ทำให้เกิดทะเลสาบหรือทะเลในที่มีช่องทางให้กระแสน้ำไหลเข้าออกได้เกาะที่เรียงตัวกันเป็นรูปวงแหวนโดยธรรมชาตินี้มีศัพท์เรียกเฉพาะว่า อะทอลล์ (Atoll)  มาจากคำพื้นเมืองว่า อะโทลู(Atolu) มัลดีฟส์มีอะทอลล์ทั้งหมด 26 หมู่ เรียงจากเหนือไปใต้ ความยาวรวม 823 กิโลเมตร  กว้าง 130 กิโลเมตร  พื้นที่ 115,300  ตารางกิโลเมตร   แต่เป็นส่วนพื้นดินเพียง 0.331% หรือ 298  ตารางกิโลเมตร  ที่เหลือกว่า 99% คือพื้นน้ำ

 

ภูมิอากาศ

     มัลดีฟส์ตั้งอยู่ในทะเลแถบเส้นศูนย์สูตร  ภูมิอากาศจึงเป็นแบบร้อนชื้น  แบ่งออกเป็น 2 ฤดู  ตามลมมรสุม คือ

 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หรือ ฮัลฮันกู (Halhangu)  ตามภาษาท้องถิ่น  เริ่มจากเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน  เป็นเดือนที่มีฝนตกมากและลมแรง

     ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ  หรืออิรูไว (Iruvai) อยู่ในระหว่างเดือนธันวาคม-มีนาคม  เป็นเดือนที่มีฝนน้อยกว่า  แต่วางใจไม่ได้  บางครั้งถึงมีแสงแดดแรง  ฝนก็อาจจะตกได้

     อุณหภูมิโดยทั่วไปค่อนข้างคงที่  กลางวันเฉลี่ย  30-31.8  องศาเซลเซียส  กลางคืน 25.1-26.3  องศาเซลเซียส  อุณหภูมิน้ำทะเล 27  องศาเซลเซียส

สถานที่ท่องเที่ยว 

1.เกาะมาเล่  มัลดีฟส์ (Maldives) ไม่ได้มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลเท่านั้น เพราะในเมืองหลวงของมัลดีฟส์ อย่าง กรุงมาเล (Male) ซึ่งตั้งอยู่บน เกาะมาเล ใน หมู่เกาะคาฟุ (Kaafu Atoll) ก็มีสิ่งที่น่าสนใจมาก  “เมืองหลวงขนาดเล็กที่สุดในโลก” ด้วยพื้นที่เพียงแค่ 5.8 ตารางกิโลเมตรเช่นกัน โดยมันเป็นบ้านของประชากรกว่า 1 แสนคน และอยู่ในเกาะมาเล (Male) ทางตอนใต้ของหมู่เกาะคาฟุ ซึ่งเหตุผลที่มีพื้นที่เล็กขนาดนี้ก็เป็นเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหมู่เกาะจึงไม่มากพอจะจัดสรรเป็นเมืองใหญ่ได้นั่นเอง และนั่นก็ทำให้ประชากรในเมืองนี้ค่อนข้างจะแออัดอยู่สักหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการคมนาคมของประเทศ  

 

2.ศูนย์กลางศาสนาอิสลามและสุเหร่าประจำชาติ สุเหร่ายอดโดมสีทองสูงเด่น สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือของสหพันธรัฐแห่งอ่าวเปอร์เซีย ปากีสถาน บรูไน  และมาเลเซีย    ภายในโอ่อ่าด้วยห้องโถงกว้างจุคนได้ถึง 5,000 คน  ฉากและประตูงดงามด้วยไม้แกะสลัก  พรมทอลวดลายพิเศษพร้อมด้วยโคมไฟแก้ว  หอคอยสูงใช้ประกาศเรียกเวลาสวดมนต์ตกแต่งเป็นลวดลายซิกแซก   ศูนย์กลางศาสนาอิสลามประกอบด้วยห้องประชุมขนาดใหญ่ ห้องสมุด  และห้องเรียน   สุเหร่าเปิดให้เข้าชมเวลา 09.00-17.00 น. ผู้เข้าชมต้องแต่งกายสุภาพ  ผู้ชายสวมกางเกงขายาว ผู้หญิงสวมกระโปรงหรือชุดยาวกรอมเท้า บ่าและแขนมีผ้าปกปิดมิด

 

3.มัสยิดฮูคูรุ Hukuru Miskiiy (Old Friday Mosque)   เป็น มัสยิดเก่าแก่ที่สุดในมัลดีฟส์ สร้างขึ้นราวปี 1656 ลักษณะภายนอกของมัสยิดไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่ผนังด้านในสร้างขึ้นจากซากปะการังและแกะสลักลวดลายแบบอิสลาม มีความสวยงามมาก ผนัง กรอบประตู และกรอบหน้าต่างของมัสยิดสร้างขึ้นจากไม้ชนิดต่างๆ แตกต่างกัน นอกจากนี้ภายในยังประดับตกแต่งด้วยเครื่องไม้ลงแล็กเกอร์ มัสยิดแห่งนี้เป็นที่ฝังพระศพของอดีตสุลต่าน

 

4.พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมัลดีฟส์ (National Museum)  พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมัลดีฟส์จัดแสดงศิลปวัตถุโบราณวัตถุที่สำคัญ อาทิ ส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ส่วนพระองค์ ของอดีตสุลต่าน ทั้งเครื่องประดับและอาภรณ์ของพระราชาและพระราชินี อาวุธ งานปักผ้าฝีมือชาวมัลดีเวียน ภาพถ่ายบุคคลสำคัญ และอีกหลายสิ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวมัลดีฟส์ในสมัยก่อน ซึ่งนักโบราณคดี Thor Heyerdahl รวบรวมมาจากทั่วประเทศ ตั้งอยู่ที่ถนน Medhuziyaaraiy Magu โทร. (960) 332-2254 เปิดให้เข้าชมทุกวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 08:00-18:00 น.

 



Other Article

ข้อมูลท่องเที่ยวจอร์แดน

ข้อมูลท่องเที่ยวรัสเซีย

ข้อมูลท่องเที่ยวฮ่องกง

ข้อมูลท่องเที่ยวอเมริกา

SOMPHONEXAY TOUR CO., LTD

Somphonexay Tour

Office Address
15-122 Ban Lakmuang, Pakse,
Champasak, Lao PDR.


Socal Network

LINE :

Whatsapp :

Вɠ2024 Somphonexay Tour All Rights Reserved.


About

Contact

Call