ประเทศรัสเซีย
Russia
รัสเซีย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สหพันธรัฐรัสเซีย เป็นประเทศในยูเรเชียเหนือ และเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในโลก กว่า 10,000,000 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ที่สามารถอยู่อาศัยของโลกถึงหนึ่งในแปด รัสเซียยังเป็นชาติมีประชากรมากที่สุดอันดับที่ 9 ของโลก โดยมีประชากร 143 ล้านคน รัสเซียปกครองด้วยระบอบสหพันธ์สาธารณรัฐกึ่งประธานาธิบดี ประกอบด้วย 83 เขตการปกครอง ไล่จากตะวันตกเฉียงเหนือถึงตะวันออกเฉียงใต้ รัสเซียมีพรมแดนติดกับนอร์เวย์ ฟินแลนด์เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ (ทั้งสองผ่านมณฑลคาลินินกราด) เบลารุส ยูเครน จอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน จีน มองโกเลียและเกาหลีเหนือนอกจากนี้ยังมีพรมแดนทางทะเลติดกับญี่ปุ่นโดยทะเลโอฮอตสก์ และสหรัฐอเมริกาโดยช่องแคบแบริง อาณาเขตของรัสเซียกินเอเชียเหนือทั้งหมดและ 40% ของยุโรป แผ่ข้ามเก้าเขตเวลาและมีสิ่งแวดล้อมและธรณีสัณฐานหลากหลาย รัสเซียมีปริมาณทรัพยากรแร่ธาตุและพลังงานสำรองใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลก เช่นเดียวกับผู้ผลิตน้ำมันอันดับหนึ่งทั่วโลก รัสเซียมีป่าไม้สำรองใหญ่ที่สุดในโลกและทะเลสาบในรัสเซียบรรจุน้ำจืดประมาณหนึ่งในสี่ของโลก
"สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ"
กรุงมอสโก
|
||
พระราชวังเครมลิน ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีต เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย แต่ได้ถูกปฏิวัติ เป็นคอมมิวนิสต์ และได้ใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลเครมลิน เป็นชื่อ ของนักการเมือง พอระบบสังคมนิยม ล่มสลายเป็นประชาธิปไตย ก็ได้เปิดให้เป็น แหล่งท่องเที่ยว จนถึงปัจจุบัน สถาปัตยกรรมของกรุงมอสโกนั้น พระราชวังเครมลินถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเลิศที่สุดในยุโรปยุคกลาง คำว่า "เครมลิน" มีความหมายว่า ป้อมปราการ มีความยาวล้อมรอบ 2,235 เมตร มีหอคอย 18 แห่ง (เพื่อป้องกันการรุกรานจากประเทศเพื่อนบ้าน) โดยมีการปรับปรุงต่อเติมมาเรื่อยๆ เริ่มจากใช้อิฐสีขาวเป็นรอบรั้วกั้นกำแพงแต่ในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาเป็นอิฐสีแดง ซึ่งความสูงของหอคอยแตกต่างกันระหว่าง 28-71 เมตร เช่น ภายในพระราชวัง แห่งนี้ประกอบด้วยปราสาท โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ คลังแสง อาวุธยุทธภัณฑ์ หอคอย ป้อมปราการ หอสูง ยอดแหลม และโดมมากมาย มีกำแพงสูง 65 ฟุตรอบพระราชวัง มีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร พระราชวังจักรพรรดิอยู่ตรงกลาง หอคอยอิวานเวลิกี้สูง 270 ฟุต เป็นที่แขวนระฆัง ของพระเจ้าโบริสดูนอฟ ผู้อยู่บนหอคอย จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพ กรุงมอสโก ที่สวยงาม ได้อย่างชัดเจน บรรดาหอคอย หอสูง โดม ป้อมปราการเหล่านี้ เมื่อแสงพระอาทิตย์สาดมาต้อง จะเห็นเป็นสีทอง เปล่งปลั่ง สุกอร่าม งามตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก
มหาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’s Cathedral) คืออีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงมอสโก ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเป็นโดมรูปหัวหอม สีสันสดใส ตั้ง ตระหง่านสง่างาม ขนาบข้างด้วยกำแพงเครมลิน ดึงดูดให้คนจำนวนไม่น้อยที่เดินทางสู่จัตุรัสแดงแล้วจะต้องถ่ายรูปเป็นที่ ระลึกคู่กับมหาวิหารแห่งนี้ พร้อมกับการเรียนรู้ความเป็นมาอันยาวนานของสถานที่สำคัญนี้ควบคู่กันไป
"จัตุรัสแดง" (Red Square) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของกรุงมอสโก ตั้งอยู่กลางใจเมืองของมอสโก ประเทศรัสเซีย ทางด้านหน้าจัตุรัสแดงนั้น เป็นที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซีย สังเกตุได้จากที่พื้นถนนจะมีสัญลักษณ์เป็นวงกลม และภายในวงกลมนี้เองก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปยืนกลางวงกลมนั้นและโยนเศษเหรียญข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลังเพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมาที่มอสโกอีกครั้ง
ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก แต่มีชื่อเสียงในเรื่องของสินค้าอันมีให้เลือกซื้อกัน อย่างหลากหลายชนิด ห้างสรรพสินค้ากุม หรืออีกสถนที่หนึ่งที่มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองนี้ ห้างสรรพสินค้ากุม ก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1895 มีความสวยงามและโดดเด่นมากลักษณะชองตัวอาคารเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีร้านค้าเปิดให้ บริการมากมายสำหรับให้ผู้ที่เดินทางหรือผู้ที่ชอบการช้อปปิ้งถึง 200 ร้านค้าด้วยกัน แต่สินค้าที่นี่อาจจะมีทั้งรูปลักษณ์ ภายในและภายนอกที่ดูหรูหราโอ่อ่า และที่สำคัญตั้งอยู่บริเวณลานกว้างในย่านจตุรัสแดงห้างสรรพสินค้ากูม มีการจำหน่ายสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคเช่น เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน สินค้าที่มีชื่อมียี่ห้อ เครื่องสำอางค์ น้ำหอม และสินค้าที่เป็นประเภทของที่ระลึก ซึ่งมีให้เลือกกันอย่างหลากหลายทีเดียว
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ( State Museum History ) ตั้งอยู่ในย่านจตุรัสแดง เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้เก็บรวบรวมเอกสารที่สำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของรัสเซีย ลักษณะของอาคารนั้นมีลักษณะเป็นตึกสีแดง หลังคาเป็นแบบสังกะสี และมีสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญทาง ประวัติศาสตร์และมีความเก่าแก่มาก ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยห้องต่างๆ จำนวน 21 ห้อง สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช มีการเก็บรวบรวมพระราชสมบัติมากกว่า 45 ล้านชิ้นและเอกสารกว่า 15 ล้านชิ้น รวมทั้งสมุดที่ใช้ในการร่างเอกสารต่างๆ อัญมณีที่ล้ำค่าและเก่าแก่ และชุดไม้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อาวุธที่ใช้ในการทำศึกสงครามของรัสฌซียแผนที่ รวมทั้งพระคำ ภีร์ที่สำคัญ ฯลฯ ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ใช้ระยะเวลาในการตกแต่ง ปรับปรุงและซ่อมแซมเป็นเวลานานหลายปี เนื่องจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เก่าแก่จึงเป็นเหตุให้การตกแต่ง หรือการปรับปรุงและทำการซ่อมแซมเป็นไปได้ยากและใช้ระยะเวลานานพอสมควร เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
พระราชวังฤดูร้อนปีโตรเดอร์วาเรส เป็นพระราชวังที่สวยงามไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย พระราชวังฤดูร้อนเปโตรควาเรสต์ (ปีเตอร์ฮอฟ) ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งทะเลบอลติก เป็นพระราชวังของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตัวอาคารพระราชวังสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีน้ำพุมากกว่า 100 แห่ง การเข้าชมพระราชวังจะต้องนำถุงเท้าที่จัดเตรียมไว้ให้ สวมคลุมรองเท้าอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นของพระราชวังเสียหาย พระราชวังฤดูร้อนปีโตรเดอร์วาเรส เป็นที่หนึ่งของความใหญ่โตที่สุดในรัสเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการสืบทอดประเพณีแห่งสากล รวมทั้งความสำเร็จ ความกล้าหาญและความเก่งกาจ ด้วยตัวอย่างของกลุ่มสถาปัตยกรรม ประติมากรรมและกลุ่มวิศวกรรมที่สอดสานความงามของศิลปะเข้ากับภูมิประเทศที่สวยงาม ประวัติความเป็นมาในการสร้างพระราชวังปี โตรเดอร์วาเรสกล่าวคือ พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชในปีค.ศ. 1705 เป็นพระตำหนัก
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจและพระราชวังฤดูหนาว ตั้งอยูที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ท่านจะได้ชม “พระราชวังฤดูหนาว” จะได้พบกับความยิ่งใหญ่อลังการ มีลานกว้าง และ “เสาอเล็กซานเดอร์” ที่สร้างถวายพระเกียรติแด่กษัตริย์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ที่พระองค์ทรงชนะ สงครามเหนือนโปเลียนของฝรั่งเศส กล่าวได้ว่า พิพิธภัณฑ์นี้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ของฝรั่งเศสเลยทีเดียว พระราชวังฤดูหนาวจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์เฮอมิเทจ มีการแสดงผลงานศิลปะที่โด่งดังจาก ทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านชิ้น ตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 มีผลงานของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี ไมเคิล แองเจโล ราฟาเอล ติเตียน แรมแบรนท์ รูเบนส์ ภาพวาดอิมเพรสชั่นนิสม์ฝรั่งเศส รวมทั้งแวนโก๊ะ มาติส โกแกง และจิตรกรชื่อดังโรแดง พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจและพระราชวังฤดูหนาว (Hermitage and Winter Palace) แต่เดิมนั้นเฮอร์มิเทจนั้นเป็นชื่อเรียกสมบัติล้ำค่าของพระราชินีแคทเธอรีนที่ได้เก็บรวบรวมและชื้อภาพ เขียนชื่อดังจากยุโรปกว่า 200 ภาพ จึงต้องสร้างห้องสำหรับเก็บภาพและสมบัติล้ำค่าส่วนพระองค์และสมบัติของพระ เจ้าปีเตอร์มหาราชขึ้น โดยมีน้อยคนนักที่จะได้เห็นคอลเล็คชั่นอันประเมินค่ามิได้เหล่านี้ โดยพระองค์ทรงเคยกล่าวไว้ในจดหมายฉบับหนึ่งว่า " มีแค่หนูกับฉันเท่านั้นที่สามารถชื่นชมผลงานเหล่านี้ได้ " เมื่อพระนางสวรรคตก็มีสมบัติสะสมมากมาย โดยเฉพาะภาพเขียนที่ทรงโปรดปราณมากกว่า 3,000 ภาพ เหรียญโบราณอัญมณีอันล้ำค่า จนถึงสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 มีการจัดหมวดหมู่ของสะสมทั้งหมด และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในปี ค.ศ. 1852
วิหารเซ็นไอแซค (St. Isaac's Cathedral) เป็นมหาวิหารที่ตั้งอยู่ที่เมืองเซ็นปีเตอร์เบิร์ก ประเทศรัสเซีย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1818 แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1858 เป็นหนึ่งในมหาวิหารที่สวยที่สุดของรัสเซีย สร้างในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส Auguste de Montferrand ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 40 ปี ประกอบด้วยเสาหินแกรนิต 48 ต้น น้ำหนักต้นละ 114 ตัน ถายในประดับประดาด้วยปฏิมากรรมบอร์น และภาพวาดกว่า 400 ชิ้น โดมทองอันสง่างามที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองด้วยขนาดมหึมาที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 25.8 เมตรซึ่งเป็นอันดับที่ 4 ของโลกรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม มหาวิหารเซนต์ปอลที่ลอนดอน และมหาวิหาร "สตา เดล ฟีออเร" ที่ฟลอเรนซ์ ประวัติของมหาวิหารเซนต์ไอแซคมีมายาวนานเกือบกว่าสามศตวรรษ เราจึงอาจกล่าวถึงประวัติของ
โบสถ์แห่งหยดเลือด (Church of Christ's Resurrection) ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ประเทศรัสเซีย เริ่มก่อสร้างเมื่อ ปี ค.ศ. 1883 แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1907 เป็นอนุสรณ์ที่พระเจ้าอเล้กซานเดอร์ที่ 3 สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระบิดาพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ผู้ปลดปล่อยชาวนา ซึ่งถูกลอบปลงพระซนม์บริเวณนี้ ในปี ค.ศ. 1881 สร้างด้วยรูปแบบศิลปะยุคฟื้นฟู เลียนแบบโบสถ์โบราณในคริสตศวรรษที่ 12 ของกรุงมอสโก ถายในตกแต่งวิจิตรบรรจงด้วย ฝีมือจิตกรกว่า 30 คน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โบสถ์ได้รับความเสียหายจากระเบิด หลังสิ้นสุดสงครามจึงได้มีการบูรณะใหม่
โบสถ์คาซาน (Kazan Cathedral) มหาวิหารคาซาน ตั้งอยู่บนถนนเนฟสกี้ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของตัวเมือง มหาวิหารคาซานทำการสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตรงกับช่วงปีค.ศ. 1708 ซึ่งแต่เดิมนั้นจัดได้เพียงว่าเป็นโบสถ์เล็กๆเท่านั้น โดยภายในมีรูปไอคอนและพระแม่มาเรีย (Our Lady Of Kazan) ที่วาดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าอีวานที่ 4 ในช่วงที่กรุงมอสโกก่อตั้งเป็นเมืองหลวง โดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชได้มีพระราชดำรัสให้นำรูปไอคอนและพระแม่มาเรียนมา ได้ที่นี่ ต่อมาในสมัยการปกครองของพระเจ้าปอลด์ที่ 1 ในปีค.ศ. 1800 ได้ทำการสร้างวิหารใหม่ให้เป็นวิหารที่ใหญ่ขึ้น และสวยงามกว่าเดิม เนื่องจากที่ว่าหลังจากที่พระองค์เสด็จประพาส ณ กรุงโรมที่อิตาลีแล้วพระองค์ทรงเกิดความประทับใจในรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบ อิตาลี พระองค์จึงได้นำรูปแบบดังกล่าวนั้นมาผสมผสานในการก่อสร้างมหาวิหารหลังใหม่ นี้
อนุสาวรีย์พระเจ้าปีเตอร์มหาราช (Bronze Horseman) เป็นอนุสาวรีย์แห่งแรกของนครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งติดกับแม่น้ำเนวา ด้านหน้าของโบสถ์เซ็นไอแซค ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน ก่อสร้างเป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ผู้เป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่ได้ขนานนามว่า มหาราช ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส Entienne Maurice Falconet ตามพระบัญชาของพระนางแคทเธอรีนมหาราช ภายหลังจากการขยายดินแดนของประเทศไปจรดทะเลดำสำเร็จตามพระประสงค์ของพระเจ้า ปีเตอร์มหาราช โดยมีการสลักพระนามไว้ที่ฐานของหินแกรนิตด้วย
โบสถ์สมอลนี (Smolny Cathredral) โบสถ์นางชีสมอลนี่ คอนแวนน์ เป็นอาคารสีฟ้าขาว สวยงามมาก สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1748 แล้วเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1764 แต่เดิมเป็นสำนักแม่ชีก่อสร้างสมัยพระนางอลิซาเบธ เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลี่ยน Bartoloeo Francesco Rastrelli บริเวณโดยรอบประกอบด้วยสวนและอาคารต่างๆ ที่ก่อสร้างขึ้นในสมัยของพระนางแคทเธอรีนมหาราช เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรม สตรีชั้นสูง เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในราชสำนักและชีวิตประจำวัน ปัจจุบันอาคารเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของภาควิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ป้อมปีเตอร์แอนด์ปอล (Peter and Paul Fortress) ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ประเทศรัสเซีย เป็นจุดกำเนิดของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ใช้ชื่อของนักบุญปีเตอร์และนักบุญปอล 2 สาวกของพระผู้เป็นเจ้า สร้างโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 1703 เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก พื้นที่ดั้งเดิมเป็นที่อยู่อาศัยของพวกนอฟโกรอส ใช้เวลาในการสร้าง 40 วัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อเอาไว้ป้องกันของทหารสวีเดน แต่เมื่อป้อมเสร็จก็ไม่ได้ใช้งาน เนื่องจากทหารสวีเดนไม่ได้รุกรานอีกเลย เคยใช้เป็นที่คุมขัง ซาร์เรวิช อเล็กซิส ( Tsarevich Alexis ) โอรสองค์โตของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ซึ่งมีความคิดไม่ลงลอยกับพระราชบิดาจึงถูกลงทัณฑ์และสิ้พระชนม์ที่นี่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ในบริเวณป้อมมีหอระฆังซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของเซนต์ปี เตอร์สเบิร์ก สูง 122.5 เมตร มีวิหารศักดิ์สิทธิ์ และมหาวิหารปีเตอร์และปอลที่ใช้เวลาสร้าง 21 ปี ภายในมีพรศพของกาตริย์แห่งรัสเซียพระองค์แรกที่ฝังอยู่ที่นี่คือพระเจ้าปีเตอร์มหาราชรวมทั้งมีหลุมฝังพระศพของราชวงศ์โรมานอฟหลายพระองค์โดยเฉพาะ กษัตริย์โรมานอฟยุคสุดท้ายคือพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่ถูกสังหารทั้งครอบครัว โลงส่วนใหญ่เป็นโลงหินอ่อนสีขาวแต่มีอยู่ 2 โลงที่เป็นหินอ่อนสีเขียวและสีแดง เป็นโลงศพของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 กับพระนางมารี อเล็กซานดรอฟนา เจ้าหญิงจากเยอรมัน พระมเหสี หลังจากการสวรรคตของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตัวโบสถ์ได้เปลี่ยนเป็นที่เก็บพระศพของพระองค์และองค์ต่อๆ มา รวมทั้งพระเจ้าซาร์นิโลลัสที่ 2 ซึ่งเป็นพระเจ้าซาร์องค์สุดท้ายแห่งราชวงค์โรมานอฟ และครอบครัว ซึ่งเพิ่งอัญเชิญพระศพมาไว้เมื่อปี ค.ศ. 1998 ประกอบด้วยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 พระนางอะเล็กซานดร้า พระธิดา 3 พระองค์ คือ โอลก้า ทาเทียน่า อนาสตาเซีย ส่วนที่ไม่พบคือ พระธิดามาเรีย และพระโอรสอเล็กซิส
เรือรบหลวงออโรร่า (Cruiser Aurora) เป็นเรือประวัติศาสตร์ที่ร่วมรบกับรัสเซียมาแล้วหลายครั้ง เช่น ปี ค.ศ. 1904-1905 สงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น รวมทั้งการปฏิวัติการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบซาร์มาเป็นระบอบ คอมมิวนิสต์ในปี ค.ศ. 1917 และสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1941-1945 ภายในเรือประกอบด้วย 2 ชั้น ชั้นแรกจัดแสดงภาพของเรือ ภูมิประเทศของเมืองโดยรอบ ในช่วงศตวรรษที่ 20 ธงโบราณของรัสเซีย ส่วนชั้นล่างเป็นห้องโถงแสดง ชีวิตความเป็นอยู่ของทหารเรือ เมนูอาหารการกิน ที่นอน ภาพการทำสงครามต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรือลำนี้ เครื่องบรรณาการจากมิตรภาพต่างแดน รวมทั้งของประเทศไทย ซึ่งได้แก่ตราอักษรย่อ มก. ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฏราชกุมารสถานที่ตั้ง Petrogradskaya Neberezhnaya ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน Gorkovskaya เปิดทำการ 11.00-16.00 น. ปิดทุกวันจันทร์และวันศุกร์ และเรือลำนี้เคยล่องมาถึงประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงานพิธีพระบรมราชาภิเษกของพระมงกุฏเล้าเจ้าอยู่หัว ภายในเรือมีของสะสมตราของพระองค์ด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้ของทหารเรือที่ใช้ใน การทำสงคราม มีเมนูอาหารของลูกเรือว่าในช่วงการทำสงครามนั้นพวกเขาทานอะไรกันบ้างเป็นหลัก ไซบีเรีย
ทะเลสาบไบคาล ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซียเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกกว่า 1,640 เมตร ทะเลสาบไบคาลเกิดจากการที่น้ำเอ่อล้นเข้ามาจนเต็มรอยเปลือกโลกที่แตกเมื่อ 25 ล้านปีที่แล้ว ทะเลสาบมีความยาวประมาณ 650 กิโลเมตร กว้างโดยเฉลี่ย 50 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 23,000 ตารางกิโลเมตร |
Office Address
15-122 Ban Lakmuang, Pakse,
Champasak, Lao PDR.
Вɠ2024 Somphonexay Tour All Rights Reserved.
Top