ประเทศอินเดีย (India)
รู้จักประเทศอินเดีย
ประเทศอินเดีย หรือ สาธารณรัฐอินเดีย ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียใต้ เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของอนุทวีปอินเดีย มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 2ของโลก และเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีอาณาเขตทางทิศเหนือติดกับจีน เนปาล และภูฏาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับปากีสถาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดพม่า ทางตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้จรดมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันออกติดบังกลาเทศ เมืองหลวง กรุงนิวเดลี
ภูมิอากาศอินเดียมี 3 ฤดูกาลได้แก่ ฤดูร้อนระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายนอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 35 องศาเซลเซียส ฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายนอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28 องศาเซลเซียส ฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคม-มีนาคมอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-17 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ - 3 องศาเซลเซียส เฉพาะบางเมืองเท่านั้น
ภาษา ภาษาฮินดีเป็นภาษาราชการ โดยมีภาษาอังกฤษเป็นภาษารองอีกทั้งรัฐธรรมนูญอินเดียยังรับรองภาษาท้องถิ่น อีก 16 ภาษาที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง อาทิ เตลูกู เบงกาลี มาราธี ทมิฬ อูรดู กุจราดี และปัญจาบี
ศาสนา นับถือศาสนาฮินดู ร้อยละ 81.3
เวลาในประเทศอินเดีย ช้ากว่าในประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง แต่การทำกิจกรรมและบริหารเวลาจะต่างกันมากโดยทั่วไปชาวอินเดียส่วนใหญ่จะเริ่มงานและทานอาหารเช้าเวลา 10.00 น และพักเที่ยงตอน14.00 น.หรือ 15.00 น. และทานอาหารเย็น ตอน 20.00 น.
สกุลเงิน รูปีอินเดีย (INR)หน่วยย่อยของรูปีเรียก เปซ่า (Paise) อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 43.5 รูปี และ 1 รูปี เท่ากับ 0.9 บาท (2548)
"สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ"
สารนาถ
สารนาถ ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย เหตุที่ได้ชื่อว่าสารนาถเนื่องมาจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา เริ่มต้นประกาศพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นที่พึ่งแก่มหาชนทั้งหลาย และบ้างก็ว่ามาจากศัพท์ว่า สารงฺค + นารถ = ที่อยู่ของสัตว์จำพวกกวาง สารนาถยังรู้จักกันดีในชื่อ "อิสิปตนมฤคทายวัน" หรือ "ฤๅษีปัตนมฤคทายวัน" แปลว่า ป่าอันยกให้แก่หมู่กวาง และเป็นที่ชุมนุมฤๅษี ภายในอาณาบริเวณสารนาถมี ธรรมเมกขสถูป เป็นพุทธสถานขนาดใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุด สันนิษฐานว่าบริเวณที่ตั้งของธรรมเมกขสถูป เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาประกาศพระสัจจธรรมเป็นครั้งแรกที่นี่
แม่น้ำเนรัญชรา
แม่น้ำเนรัญชรา เป็นแม่น้ำที่สำคัญในพุทธประวัติ ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า "ลิลาจัน" มาจากคำสันสกฤตว่า "ไนยรัญจนะ" แปลว่า แม่น้ำที่มีสีใสสะอาด และเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญทางพุทธประวัติคือในอดีตกาลนั้น ขณะที่พระพุทธองค์บำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่ที่เขาดงคสิริ ในตำบลอุรุเวลาเสนานิคม อยู่ไม่ห่างไกลกับบ้านนางสุชาดา ซึ่งเป็นธิดาของคหบดีผู้มั่งคั่งในตำบลนั้น มีบ้านอยู่บนเนินเขา อยู่ริมฝั่งทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเนรัญชรา ภิกษุทั้ง 5 รูปคือ ปัญจวัคคีย์ ก็คอยเฝ้าปฏิบัติบำรุง หวังไว้ว่าเมื่อตรัสรู้แล้วจะได้แสดงธรรมโปรดตนต่อมาพระสิทธัตถะทรงพิจารณาเห็นชัดว่า ทุกรกิริยาไม่ใช่ทางแห่งการตรัสรู้แน่นอนจึงกลับเสวยพระกระยาหารตามเดิม แล้วหันมาบำเพ็ญเพียรทางจิต ปัญจวัคคีย์เห็นเช่นนั้นเลยเข้าใจว่า พระองค์คงจะละความเพียรพยายาม หมดหวังในการตรัสรู้ จึงพากันละทิ้งพระองค์ไปอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวันแขวงเมืองพาราณสี นอกจากนี้แม่น้ำเนรัญชรายังเป็นที่สัณนิษฐานว่า นางสุชาดาได้นำข้าวมธุปายาส ใส่ถาดทองคำจนเต็มไปถวายพระพุทธองค์ ซึ่งประทับอยู่ที่โคน ต้นไทรหันพระพักตร์ทางทิศตะวันออก พระสิทธัตถะได้เสวยจนหมด แล้วทรงถือถาดลงไปสู่แม่น้ำอธิษฐานเสี่ยงพระบารมีว่า "ถ้าหากข้าพเจ้าจะได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณขอให้ถาดนั้นจงลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไป" ด้วยอานุภาพบารมีของพระองค์ ถาดทองคำก็ลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไป ประมาณ 1 เส้น แล้วจมลงในเส้นดิ่งตรงกับต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ซึ่งอยู่บนฝั่งทางทิศตะวันตก
พุทธคยา
พุทธคยา ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเนรัญชรา จังหวัดมคธ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งถือว่าเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยมีการขึ้นทะเบียน พ.ศ.2545 เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญและมีความที่สุด 1ใน4แห่งชาวพุทธ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พุทธสังเวชนียสถานที่มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก ปัจจุบันบริเวณพุทธศาสนสถานอันเป็นที่ตั้งของสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการร่วม พุทธ-ฮินดู นอกจากนี้พุทธคยายังมีลักษณะเด่นที่สำคัญอีกคือ พระมหาเจดีย์พุทธคยา โดยมีความสูง 51 เมตร ฐานวัดโดยรอบได้ 120 เมตร ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อพระพุทธเมตตา พระพุทธปฏิมากรปางชนะมารอายุ 1,400 ปีเศษ ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากน้ำมือกษัตริย์ฮินดู พระพักตร์ที่แสดงออกด้วยเมตตากรุณาอั้นเปี่ยมล้นชาวพุทธทั่วโลก นอกจากนี้บริเวณโดยรอบๆพระมหาเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุ โบราณสถานสำคัญ เช่น พระแท่นวัชรอาสน์ ที่ประทับตรัสรู้และอนิมิสสเจดีย์ ต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยาซึ่ง ต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้เป็นต้นแรกเป็นสหชาติกับพระพุทธเจ้า เกิดในวันเดียวกับวันที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ มีอายุมาได้ 352 ปี จนถึงสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช จึงถูกทำลายโดยพระชายาของพระเจ้าอโศกมหาราช เพราะความอิจฉาที่พระเจ้าอโศกรักและหวงแหนต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้จนไม่สนใจพระนาง ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สองนั้นปลูกโดยพระเจ้าอโศกมหาราช จากหน่อพระศรีมหาโพธิ์ต้นเดิมและมีอายุยืนมาประมาณ 871-891 ปี จนถูกทำลายในประมาณปี พ.ศ. 1143-1163 ด้วยน้ำมือของพระราชาฮินดูแห่งเบงกอลพระนามว่าศศางกา ซึ่งพระองค์อิจฉาพระพุทธศาสนาที่มีความรุ่งเรืองมาก จึงทรงแอบนำกองทัพเข้ามาทำลายต้นโพธิ์ต้นนี้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามปลูกโดยพระเจ้าปูรณวรมา กษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เมารยะ และต้นที่สามนี้มีอายุยืนมากว่า 1,258-1,278 ปี จึงล้มลงในสมัยที่อินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สี่ ที่ยังคงยืนต้นมาจนปัจจุบัน ปลูกโดยนายพลเซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม เมื่อ พ.ศ. 2423 และในปัจจุบัน พุทธคยามีชื่อเรียกอีกชื่อว่า วัดมหาโพธิ์ ซึ่งถือเป็นจุดแสวงบุญของชาวพุทธทั่วโลก
ลุมพินีวัน
ลุมพินีวัน เป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ที่อำเภอไภรวา แคว้นอูธ ประเทศเนปาล เป็นพุทธสังเวชนียสถาน 4 ตำบลเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย ลุมพินีวันเดิมเป็นสวนป่าสาธารณะหรือวโนทยานที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน ในสมัยพุทธกาล ลุมพินีวันตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมือง กบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะ ในแคว้นสักกะ บนฝั่งแม่น้ำโรหิณี หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชได้โปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่มาปักไว้ตรงบริเวณที่ประสูติ เรียกว่า เสาอโศก ที่จารึกข้อความเป็นอักษรพราหมีว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ตรงนี้
ราชคฤห์
ราชคฤห์เป็นชื่อเมืองหลวงของแคว้นมคธสมัยพุทธกาล เป็นเมืองในหุบเขา มีภูเขาล้อมรอบ 5 ลูก คือ คือ เวปุลละ, เวการะ, ปัณฑวะ, อิสิคิริ และคิชกูฏ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เบญจคีรีนคร ราชคฤห์เป็นเมืองตั้งหลักพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า โดยพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระเจ้าพิมพิสารผู้ครองนคร เป็นเมืองที่มีประวัติความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามากที่สุด สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าและพระสาวกยังปรากฏอยู่มากมาย เช่น พระคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏ วัดเวฬุวันซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ถ้ำสุกรขาตาที่พระสารีบุตรได้บรรลุธรรม ถ้ำสัตบรรณคูหาที่ทำสังคายนาครั้งแรก ในปัจจุบันสถานะเมืองหลวงของราชคฤห์ถูกเปลี่ยนโอนไปอยู่ที่ปาฏลีบุตรตั้งแต่สมัยพระเจ้าอชาตศัตรู ส่งผลให้ราชคฤห์ในปัจจุบันเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ในรัฐพิหาร มีผู้อยู่อาศัยไม่มาก มีสภาพเกือบเป็นป่า แต่เป็นสถานที่แสวงบุญของชาวพุทธทั่วโลกแห่งหนึ่ง
สาวัตถี
สาวัตถี คือเมืองโบราณในสมัยพุทธกาล มีความสำคัญในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล 1 ใน แคว้นมหาอำนาจใน 16 มหาชนบทในสมัยพุทธกาล เมืองนี้รุ่งเรืองจากการที่เป็นชุมนุมการค้าขาย การทหาร เป็นเมืองมหาอำนาจใหญ่ควบคู่กับเมืองราชคฤห์แห่งแคว้นมคธในสมัยโบราณ ปัจจุบันเมืองนี้เหลือเพียงซากโบราณสถาน คนอินเดียในปัจจุบันลืมชื่อเมืองสาวัตถี หรือ ศราวัสตี ไปหมดแล้ว คงเรียกแถบตำบลที่ตั้งเมืองสาวัตถีนี้เพียงว่า สะเหถ-มะเหถ ตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย และสิ่งที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่คือ กำแพงเมืองสาวัตถีโบราณ ภายในกำแพงเมืองมีโบราณสถานคงเหลืออยู่มากมาย เช่น ซากบ้านของบิดาพระองคุลีมาล, ซากคฤหาสถ์ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี, และวัดเก่าแก่ที่สร้างอุทิศแก่ พระติรธังกร บริเวณนอกเขตเมืองสาวัตถียังมีสถานที่สำคัญเช่น ซากยมกปาฏิหาริย์สถูป (สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์) และวัดเชตวันมหาวิหาร (พระอารามที่พระพุทธเจ้าทรงจำพรรษามากที่สุดในพุทธกาล) ซึ่งเป็นสถานที่แสวงบุญสำคัญของชาวพุทธทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีวัดที่ประเทศต่างๆ ที่นับถือศาสนาพุทธมาสร้างไว้ ได้แก่ ประเทศไทย เกาหลีใต้ ศรีลังกา พม่า ธิเบตและจีน
วัดเวฬุวันมหาวิหาร
วัดเวฬุวันมหาวิหาร หรือ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน เป็นต้นกำเนิดของวัด คือ วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา คำว่า เวฬุวัน แปลว่า สวนไผ่ ซึ่งแต่เดิมนั้น วัดแห่งนี้เป็นพระราชอุทยานของพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แคว้นมคธ ตั้งอยู่นอกเมืองราชคฤห์ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้เสด็จไปยังเมืองราชคฤห์ พระเจ้าพิมพิสารทรงยกพระราชอุทยานสวนไม้ไผ่ถวายเป็นที่ประทับแห่งแรกแด่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระสงฆ์สาวก ด้วยทรงเห็นว่าเป็นที่สงบร่มรื่น เหมาะสำหรับอยู่บำเพ็ญธรรมของพระสงฆ์ ถือกันต่อมาว่าสถานที่นี้เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา นอกจากนี้วัดนี้ยังเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสาวกจำนวน 1,250 รูป แล้วส่งไปเป็นพระธรรมทูตประกาศพระศาสนา อันเป็นที่มาของวันมาฆบูชา แต่ในปัจจุบันนั้นวัดเวฬุวันมหาวิหาร ยังคงเหลืออยู่แต่ซากโบราณสถานในสวนไผ่ที่ร่มรื่น มีสระน้ำขนาดใหญ่ภายใน มีรั้วรอบด้าน อยู่ในความดูแลของทางราชการอินเดีย
เขาคิชฌกูฏ
เขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่ทางทิศใต้อยู่ในตำบลราชคีร์ ในจังหวัดนาลันทา เป็นเมืองสำหรับการแสวงบุญของชนชาวพุทธ พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่ในเมืองนี้หลายครั้ง การกระทำปฐมสังคายนาก็ทำที่เมืองนี้ ปัจจุบันเมืองราชคฤห์ยังมีปฐมสังคายนาให้เห็นอยู่เพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญ ระหว่างทางไปเขาคิชฌกูฏ จะเห็นชีวกัมพวันซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในพระพุทธศาสนา หมอชีวกได้รับแต่งตั้งให้เป็นแพทย์ประจำราชสำนักหมอชีวก หรือ "ชีวกโกมารภัจจ์" เป็นหมอใหญ่ที่มีชื่อเสียงมาก เขาคิชฌกูฏเป็นสถานที่ที่พระเทวทัตคิดทำร้ายพระพุทธเจ้า โดยพระเทวทัต แอบขึ้นไปบนยอดเขาคิชฌกูฏ แล้วงัดก้อนหินลงมาเพื่อหวังที่จะปลงพระชนม์พระบรมศาสดาในขณะเสด็จขึ้นจะไปประทับที่กุฏิวิหารของพระองค์บนยอดเขา แต่ก็ไม่อาจทำอันตรายพระบรมศาสดาได้ เป็นแต่เพียงสะเก็ดหินได้กระเด็นไปกระทบพระบาทเท่านั้นและหมอชีวกโกมารภัจจ์ แพทย์ประจำพระองค์พระพุทธเจ้าก็ถวายการปฐมพยาบาลพระองค์ เขาคิชฌกูฏเป็นสถานที่เงียบสงบ บรรยากาศดีเหมาะแก่การนั่งสมาธิปฎิบัติธรรมเป็นสถานที่พระบรมศาสดาเสด็จมาประทับที่นี่หลายครั้ง และนอกจากนี้เขาคิชฌกูฏ ยังมีถ้ำอีกได้แก่ ถ้ำพระโมคคัลลานะ และ ถ้ำสุกรขาตาหรือถ้ำพระสารีบุตร และในปัจจุบันเขาคิชฌกูฏก็ได้กลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมานมัสการสิ่งศักสิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชิวิตอีกด้วย
สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา
สาลวโนทยาน ตั้งอยู่ เมืองกุสินคร ประเทศอินเดีย เมืองกุสินารา เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 1 ใน 4 ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอก1ใน2ของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมืองปาวา เป็นที่ตั้งของ สาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า มาถากุนวะระกาโกฏ ซึ่งแปลว่า ตำบลเจ้าชายสิ้นชีพ ปัจจุบันกุสินารา มีอนุสรณ์สถานที่สำคัญคือสถูปใหญ่ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างไว้และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วิหารปรินิพพานซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน พระพุทธรูปปางอนุฏฐิตไสยาสน์ มีพุทธลักษณะคือพระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวา ศิลปะมถุรา มีอายุกว่า 1,500 ปี ในจารึกระบุผู้สร้างคือ หริพละสวามี โดยนายช่างชื่อ ทินะ ชาวเมืองมถุรา ในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมาสักการะ เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดา แสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานจากไปอย่างผู้หมดกังวลในโลก
เวสาลี
เวสาลี หรือ ไวศาลี เป็นเมืองที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาล โดยเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากแคว้นหนึ่งในบรรดา 16 แคว้นของชมพูทวีป มีการปกครองด้วยระบบสามัคคีธรรมหรือคณาธิปไตย ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยระบบหนึ่ง ในสมัยพุทธกาลนั้น พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาที่เวสาลีหลายครั้ง แต่ละครั้งจะทรงประทับที่กูฏาคารศาลาป่ามหาวันเป็นส่วนใหญ่ พระสูตรหลายพระสูตรเกิดขึ้นที่เมืองแห่งนี้ และที่กูฏาคารศาลานี่เอง ที่เป็นที่ ๆ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระนางมหาปชาบดีโคตมีเถรี พระน้านางของพระพุทธองค์ พร้อมกับบริวาร สามารถอุปสมบทเป็นภิกษุณีได้เป็นครั้งแรกในโลก และในการเสด็จครั้งสุดท้ายของพระพุทธองค์ พระองค์ได้ทรงรับสวนมะม่วงของนางอัมพปาลี นางคณิกาประจำเมืองเวสาลี ซึ่งนางได้อุทิศถวายเป็นอารามในพระพุทธศาสนา
วัดเชตะวันมหาวิหาร
วัดเชตวันมหาวิหาร หรือ วัดพระเชตวัน อารามของบิณฑิกเศรษฐี เป็นอารามที่สร้างโดยท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มหาเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี บนที่ตั้งของเชตวัน หรือสวนเจ้าเชต นอกเมืองสาวัตถี วัดแห่งนี้นับว่าเป็นวัดและที่มั่นสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล และเป็นวัดที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษามากที่สุดถึง 19 พรรษา วัดเชตวันมหาวิหารเป็นสถานที่เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามากมาย เช่น เรื่องของพระองคุลิมาล, นางปฏาจาราเถรี, พระนางกิสาโคตมีเถรี, การถวายอสทิสทาน, เรื่องพระพุทธองค์ทรงดูแลภิกษุไข้, พราหมณ์จูเฬกสาฏก, ทรงพยากรณ์สุบินนิมิต 16 ประการ, นางกาลียักษิณี, นางจิญมาณวิกา ถูกแผ่นดินสูบ, พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ เป็นต้น ในส่วนพระสูตรนั้นมีจำนวนมากที่สำคัญๆ เช่น มหามงคลสูตร, ธชัคคสูตร, ทสธัมมสูตร, สาราณียธรรมสูตร, อหิราชสูตร, เมตตานสังสสูตร, คิริมานนทสูตร, ธัมมนิยามสูตร, อปัณณกสูตร, อนุตตริยสูตร, พลสูตร, มัคควิภังคสูตร, โลกธัมมสูตร, ทสนารถกรณธัมมสูตร, อัคคัปปทานสูตร, ปธานสูตร, อินทริยสูตร, อนริยสูตร และสัปปุริสธัมมสูตร โดยทั้งหมดทรงแสดง ณ วัดเชตวันแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีต้นอานันทโพธิ์ ต้นโพธิ์ซึ่งชาวพุทธนับถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับ 2 รองจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา พระมูลคันธกุฎี ที่ได้ทำการขุดค้นปรับแต่งเป็นอย่างดีหมู่กุฏิพระมหาเถระ บ่อน้ำสรงสนานของพระพุทธองค์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นที่นิยมมานมัสการของพุทธศาสนิกชน
แม่น้ำคงคา
แม่น้ำคงคาซึ่งชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เพราะไหลมาจากภูเขาไกรลาส บนสรวงสวรรค์ แต่ถ้าเป็นตามหลักภูมิศาสตร์แม่น้ำนี้ไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัย บริเวณเทือกเขาหิมาลัย ไหลผ่านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียไปทางตะวันออก และรวมกับแม่น้ำพรหมบุตรที่ประเทศบังกลาเทศ ก่อนจะไหลออกที่อ่าวเบงกอล แม่น้ำคงคามีความยาวประมาณ 2,510 กิโลเมตร
โอลนาลันทา
โอลนาลันทาเป็นซากมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาที่เคยรุ่งเรืองโด่งดังมากที่สุดในโลก มีพระนักศึกษาจำนวนหมื่น เมื่อราว พ.ศ.1700 ได้ถูกชาวมุสลิมรุกรานสังหารพระและคณาจารณ์และเผาทำลายเสียสิ้นปัจจุบันเหลือไว้แต่ ซากปรักหักพังปรากฏเป็นรูปฐานและผนังของอาคารยาวเหยียด ในบริเวณอันกว้างขวาง และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นบ้านเกิดของ พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร ที่นี่ยังมีพระสถูปเจดีย์ที่บรรจุอัฐิธาตุของพระสารีบุตรด้วย
พาราณสี
พาราณสี หรือ วาราณสี เป็นชื่อของเมืองหลวงแคว้นกาสี ประเทศอินเดีย มีแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่าน มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่มีแม่คงคาศักดิ์สิทธิ์ ถือว่าเป็นสุทธาวาสที่สถิตแห่งศิวเทพ ถือว่าเป็นเมืองอมตะของอินเดีย และเป็นที่แสวงบุญทั้งของชาวฮินดูและชาวพุทธทั่วโลก ครั้งสมัยอาณานิคม เมืองนี้มีชื่อว่า เบนาเรส (Benares) พาราณสียังเป็นเมืองที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาในหลายด้าน กล่าวคือ เป็นที่เกิดของพระโพธิสัตว์หลายครั้ง โดยมีอาณาเขตครอบคลุมถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่พระปัญจวัคคีย์ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า สารนาถ อันเป็นสังเวชนียสถานแห่งหนึ่ง
Office Address
15-122 Ban Lakmuang, Pakse,
Champasak, Lao PDR.
Вɠ2024 Somphonexay Tour All Rights Reserved.
Top